Title : The Emperor And The Girl (จักรพรรดิและเด็กสาว)
Paring : Akashi Seijurou x Mayuzumi Chihiro (c)
Rate : PG-13
Note : นายน้อยเป็นโอเรชินะคะ (แม้จะมีแต่คำแทนตัวว่า ผม ก็เถอะ) ไม่เคยแต่งนายน้อยมาก่อนเลย…แน่นอนพี่มายุด้วย หากมีข้อผิดพลาดแต่ประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ m(_ _)m
The Emperor And The Girl : Chapter 1 ‘She’ is Behind the Door
“เอ๋?…มายุสุมิซังไม่ยอมออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า?”
อาคาชิกะพริบตาปริบเมื่อได้ยินสิ่งที่รองกัปตันมิบุจิบอกมา อีกฝ่ายพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยสีหน้าไม่สู้สบายใจนัก…จริงอยู่ว่าตอนนี้ไม่มีซ้อม แล้วมายุสุมิไปทำบ้าอะไรที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะหรือ?
เพื่อเก็บของที่ทิ้งไว้ในล็อคเกอร์น่ะสิ…
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า…เก็บทำแมวอะไรตั้งสามชั่วโมง!?
“เซย์จังช่วยไปดูหน่อยสิ…พวกรุ่นพี่คนอื่นออกมาตั้งนานแล้ว เหลือเขาเป็นคนสุดท้าย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตอบ แถมยังล็อคห้องไม่ยอมให้ใครเข้าไปอีกต่างหาก เนี่ย…จะเข้าไปเอาของก็เข้าไม่ได้ เอย์จังหิวจนจะพังประตูอยู่แล้วเพราะลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า!” มิบุจิโวยวายด้วยความเครียด ?
“เข้าใจแล้ว”
อาคาชิพยักหน้าก่อนจะเดินตามพี่สาวของทีมไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีฮายามะกับสมาชิกปีสองอีกสองสามคนกำลังพยายามห้ามปรามเนบุยะอย่างสุดความสามารถ
“มายุสุมิ!! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะโว้ยย! ฉันจะเอากระเป๋าเงินนน!!”
“เอย์จัง! ใจเย็น ๆ ก่อนซี่! ถ้าพังประตูล่ะก็เรื่องใหญ่เลยนะ!” ฮายามะร้อง พยายามกอดรัดร่างยักษ์ของเพื่อนร่วมระดับชั้นไว้อย่างสุดความสามารถ
ตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกแง้มออกมานิด ๆ พร้อมกับกระเป๋าเงินใบขนาดพอดีมือที่ถูกโยนออกมากองแหมะอยู่แทบเท้าเนบุยะ ยังไม่ทันที่ฮายามะจะคว้าประตูไว้มันก็ถูกปิดโครมลง ตามด้วยเสียงล็อคแกร๊กอย่างรวดเร็วภายในเวลาสามวินาทีถ้วน
โอเค…แปลกจริง ๆ แล้ว
“เนบุยะ” อาคาชิก้าวเข้าไปพลางมองเนบุยะที่ก้มลงตะครุบกระเป๋าเงินไว้อย่างรวดเร็ว “เมื่อกี้เห็นเขาหรือเปล่า?”
“ไม่เห็น มันเร็วมากจนมองไม่ทัน”
“ฉันเห็นแวบเดียว…ไม่ทันสังเกตรายละเอียดอะไรน่ะนะ แต่ก็รู้สึกว่ามายุสุมิซังดูแปลก ๆ ไป” ฮายามะตอบบ้าง อาคาชิยกมือแตะปลายคาง ก้มหน้าลงคิดด้วยความฉงน ปกติมายุสุมิซังไม่ใช่คนแบบนี้นี่นา
“เซย์จัง…ทำไงดี” มิบุจิถามอย่างเป็นกังวล ไอ้กังวลเรื่องมายุสุมิก็กังวลอยู่หรอก แต่กังวลกว่าถ้าต้องเจียดงบอันล้ำค่าของชมรมไปซ่อมประตูที่พังไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตามย่ะ!
“ทุกคนกลับไปก่อนเถอะ ที่เหลือฉันจัดการเอง” อาคาชิหันไปบอก ซึ่งทุกคนในทีมก็ได้แต่มองหน้ากัน
“แต่ว่า…”
“อย่างที่บอก…ที่เหลือ ‘ผม’ จัดการเองไงล่ะ” เปลี่ยนสรรพนามเอ่ยย้ำพร้อมแถมรอยยิ้มหวาน ทำเอาทุกคนในที่นั้นต้องสะดุ้งกันคนละทีแล้วรีบสลายตัวอย่างรวดเร็ว
อาคาชิถอนหายใจเมื่อในที่สุดบรรยากาศโดยรอบก็สงบลงจนได้ อย่างน้อยก็คงพอช่วยให้คนที่อยู่ข้างในใจเย็นลงบ้าง เด็กหนุ่มเดินมาหยุดยืนหน้าประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเอื้อมไปเคาะเบา ๆ พร้อมส่งเสียงเรียก
“มายุสุมิซังครับ”
“……”
“มายุสุมิซัง”
“……”
“มายุสุมิซัง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“……”
“มายุสุมิซัง ตอบด้วยครับ”
“……”
“…….”
“…….”
“…….”
“…….”
“จิฮิโระ…ถ้ายังไม่ยอมมาเปิดประตูนะ—”
“เออ รู้แล้ว! หนวกหูน่า!”
เสียงที่ตะโกนกลับออกมาจากในห้องทำให้อาคาชิชะงัก… “มายุสุมิซัง…เสียงคุณ?”
มันหวานแปลก ๆ อยู่นะ…
“หุบปากไปเลย! แค่เปิดประตูก็พอใช่มั้ย!” เสียงตึงตังดังขึ้นจากอีกฟากของประตู ตามมาด้วยเสียงก๊อกแก๊ก ก่อนที่ประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของชมรมบาสเกตบอลชายโรงเรียนราคุซันที่ปิดตายมากว่าสามชั่วโมงจะเปิดออก
…เผยให้เห็นร่างโปร่งบางของ ‘หญิงสาว’ ผมสีอ่อนยาวสลวยที่ยืนอยู่ข้างใน
“มายุ…สุมิซั—”
อาคาชิยังพูดไม่ทันจบก็ถูกสาวสวยคนนั้นฉุดเข้าห้อง เสียงประตูปิดลงดังปัง พร้อมกับมือเรียวที่ยื่นผ่านตัวเขาไปกดล็อคประตูห้องอีกครั้ง
เด็กหนุ่มผมสีแดงยืนมองรุ่นพี่ที่ยืนหอบหายใจอยู่ตรงหน้า…อาจจะด้วยความตื่นเต้น หรือความรีบร้อน ไม่ก็ตกใจ แต่สรุปง่าย ๆ คงทุกอย่างรวมกัน
“มายุสุมิซัง…”
“เรียกอะไรนักหนา!?” ในที่สุดมายุสุมิก็ยอมเงยหน้าขึ้น อาคาชิเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้เห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก
ถึงจะใส่ชุดนักเรียนชายอยู่ แต่ชุดนั้นมันก็ดูหลวมโพรกไปมาก ผมสีอ่อนคุ้นตาที่เคยสั้นระต้นคอ ตอนนี้ทิ้งตัวยาวลงมาถึงเอวบาง ๆ คอดกิ่ว มายุสุมิเคยตัวสูงกว่าเขา แต่ตอนนี้พอ ๆ กัน…จากที่ประมาณด้วยสายตา น่าจะตัวเล็กกว่าเขาสักเซนต์สองเซนต์ได้ ผิวพรรณก็ดูนุ่มนิ่มมีน้ำมีนวลขึ้น แถมยัง…หน้าอก—
“ถ้าไม่เลิกมองฉันจะทิ่มตานายจริงด้วย”
“ขอโทษครับ” โทษความช่างสังเกตของตัวเองสักทีแล้วกัน ถึงจะไม่ได้อยากมองเจาะลึกขนาดนั้นแต่ก็อดไม่ได้จริง ๆ นั่นล่ะ
เป็นครั้งแรกเลย…ที่มีคนรู้จักกลายร่างเป็นผู้หญิงแบบนี้
“มายุสุมิซัง…เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? ทำไมถึงกลายเป็นผู้หญิงไปแบบนี้” อาคาชิขมวดคิ้วถาม ดวงตาไม่ค่อยมีแววนักของมายุสุมิกวาดไปมาล่อกแล่ก ทำให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องนึกเดาได้ไม่ยากว่าเหตุผลมันคงน่าอายแทบบ้าสำหรับเจ้าตัว
“กินยาผิดน่ะ…”
แม้แต่อาคาชิ เซย์จูโร่ยังต้องชะงักเมื่อได้ยินคำตอบพิลึกพิลั่นพรรค์นั้น
“…ยาอะไรทำให้เปลี่ยนเพศได้อย่างกะทันหันแบบนี้…ไม่มีหรอกนะครับ”
“นี่จะหาว่าฉันเพ้อเจ้อใช่มั้ยหา!?”
ก็อยากจะบอกว่าคุณมันเพ้อเจ้ออยู่หรอก…แต่ก็ไม่มีข้อโต้แย้งว่าถ้าไม่ใช่ยา แล้วมันคืออะไรที่ทำให้มายุสุมิซังกลายเป็นผู้หญิงไปได้ล่ะ?
อาคาชิมองอีกคนอย่างอับจนคำพูดโต้ตอบ มายุสุมิถอนหายใจยาวพรืดก่อนจะเริ่มเดินวนไปมาในห้องแล้วไปหยุดลงด้วยการทิ้งตัวนั่งบนม้านั่งกลางห้อง
“จู่ ๆ ฉันก็ปวดหัว เลยไปขอยาที่ห้องพยาบาล อาจารย์ก็ให้ยามาตามปกติ— อย่างน้อยฉันก็คิดว่าปกตินะ แต่พอมาเก็บของที่ห้องนี้ก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ แล้วพอทุกคนออกไปกัน ฉันก็กลายเป็นแบบนี้!” มือขาว ๆ ถูกยกขึ้นมาปิดหน้าด้วยความเครียด อาคาชิได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง ในหัวก็คิดประมวลไปพลาง ๆ ด้วย
ยานั่นมันคือยาอะไร…อาจารย์ห้องพยาบาลจะสะเพร่าถึงขนาดหยิบยาให้ผิดได้หรือ?
“อาคาชิ! นายต้องช่วยฉันนะ! ต้องคืนร่างเดิมให้ทันวันจบการศึกษา! ฉันเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตไม่ได้!” ตอนกำลังใช้ความคิด มายุสุมิก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับร้องออกมา
เป็นครั้งแรกที่คนฉลาดอย่างอาคาชิยังรู้สึกอับจนหนทาง แต่เมื่อเห็นสายตาของรุ่นพี่ที่ดูสับสนทำอะไรไม่ถูก เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วยิ้มบาง ๆ
“…ไม่มั่นใจว่าจะทำอะไรได้ไหม แต่ก็จะลองดูครับ”
“อา…ฝากด้วยล่ะ!”
“ว่าแต่…ระหว่างอยู่ในร่างผู้หญิงแบบนี้ มายุสุมิซังจะทำยังไงครับ?”
“ไม่ทำอะไรทั้งนั้น…จะหยุดเรียน! จะไม่เจอใครทั้งนั้น!”
“เดี๋ยวเวลาเรียนก็ไม่พอหรอกครับ” อาคาชิเอ่ยเตือน เพราะยังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงสอบปลายภาค ไหนจะยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก ทำให้มายุสุมิเบ้หน้าทันที
“งั้นนายก็รีบทำให้ฉันหายสิ”
“มันทำได้ง่าย ๆ ที่ไหนกันล่ะครับ…คุณโดนยาอะไรมาผมยังไม่รู้เลย ถ้าจะทำให้เป็นเหมือนเดิมก็คงจะต้องปรุงยาแก้ ซึ่งจะทำได้ ผมก็ต้องได้ศึกษาตัวยาที่ทำให้เกิดผลแบบนี้กับร่างกายก่อน บอกตามตรง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะมียาที่ให้ผลแบบนี้ด้วย แน่ใจนะครับว่าไม่ให้หมอที่เรียนมาเป็นคนช่วย”
“ไม่เอา น่าอายออกจะตายไป กลายเป็นผู้หญิงแบบนี้” บางทีเงาของเขาก็หัวดื้อจนน่าตี…
“เข้าใจแล้วครับ ลองค่อย ๆ หาวิธีแก้กันนะครับ” อาคาชิยิ้มบางพลางเอื้อมมือไปแตะไหล่รุ่นพี่เบา ๆ มายุสุมิเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ
“โทษทีนะ…”
เด็กหนุ่มอดหัวเราะเบา ๆ ในลำคอไม่ได้ เมื่อเห็นรุ่นพี่มายุสุมิผู้ถือตัวและอวดดี พอกลายร่างเป็นเพศตรงข้ามแบบนี้กลับดูงอแงอ่อนไหวอย่างไม่น่าเชื่อ
“ยิ้มอะไร?”
“เปล่าครับ…แล้วคุณจะกลับบ้านทั้งสภาพนี้หรือเปล่าครับ? หรือให้ผมไปขอชุดนักเรียนหญิงมาให้เปลี่ยนแทนเอาไหม?”
“แล้วจะให้ฉันนอนห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านี่หรือไง ไม่เอาด้วยหรอก…ใส่กระโปรงก็ไม่เอา! อีกอย่างนะ…ถ้ากลับไปทั้งแบบนี้ พ่อกับแม่มีหวังตกใจกันแย่สิ”
“จริงด้วย…” อาคาชิพยักหน้าอย่างนึกขึ้นได้ ถ้ามายุสุมิซังกลับบ้านทั้งแบบนี้ คงต้องมีคำอธิบายอีกยาวเลย
“เอาไงดีล่ะเนี่ย…” คนที่กลายเป็นสาวนั่งกุมคางคิดอย่างเคร่งเครียดตอนที่อาคาชิที่ยืนมองอยู่เผลอหลุดบางอย่างออกไปจากริมฝีปาก
“งั้น…มาค้างบ้านผมชั่วคราวไหมครับ”
“…หา?”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านเจ้าค่ะ”
“……”
“เชิญตามสบายเลยนะครับ” อาคาชิหันมายิ้มบางบอกรุ่นพี่ที่ยังยืนแข็งทื่อเป็นหินด้วยความตกตะลึง ตอนแรกเห็นบ้าน— ไม่สิ คฤหาสน์อาคาชิก็ว่าเหลือเชื่อแล้ว ยิ่งเข้ามาข้างใน มีสาวใช้ยืนเรียงแถวรอต้อนรับแบบนี้อีก…พระเจ้าครับ จิฮิโระกลัวคนรวย
“รุ่นพี่ของผมจะมาค้างด้วยสักระยะ ฝากจัดห้องพักให้ด้วยนะครับ ใกล้ ๆ ห้องผมก็ได้” มายุสุมิเดินกล้า ๆ กลัว ๆ ตามอาคาชิที่หันไปสั่งงานสาวใช้ไปท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองเขาคล้ายจะสงสัย คงเพราะเมื่อกี้ไม่ทันเห็นแน่ ๆ
“อาคาชิ…ไม่เป็นไรแน่นะ?” ดึงแขนเสื้อรุ่นน้องไว้แล้วกระซิบเบา ๆ เจ้าของบ้านพยักหน้าน้อย ๆ
“ช่วงนี้คุณพ่อไปทำงานต่างประเทศ คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรครับ มีอะไรบอกคนรับใช้ที่นี่ได้ทุกคน…อ้อ อย่าลืมโทร— ไม่สิ ส่งข้อความบอกทางบ้านด้วยนะครับ”
“รู้หรอกน่า เป็นแค่รุ่นน้อง ไม่ต้องมาสั่งเลย” คนเป็นรุ่นพี่มุ่ยหน้าตอบ ซึ่งอาคาชิก็เพียงแค่ยิ้มบางแล้วเดินนำขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปยังห้องหนึ่งพลางพยักพเยิดให้มายุสุมิตามเข้ามา
“นี่ห้องผมเองครับ ระหว่างรอจัดห้องพักให้ เราจะคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน” เด็กหนุ่มผมแดงตอบพลางเปิดสวิตช์ไฟในห้องพลางผายมือเชิญให้รุ่นพี่ไปนั่งที่เตียง
มายุสุมินั่งลง กวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องของอาคาชิ…ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย มีโต๊ะเขียนหนังสือตั้งอยู่ตรงริมหน้าต่างห้อง แล้วก็ชั้นหนังสือวางติดผนัง เตียงนอนก็สำหรับนอนคนเดียว ออกจะดูเรียบง่ายมากกว่าหรูหราอย่างที่ตัวเองจินตนาการมาตลอด
“คุณจำได้ไหมครับว่ายาแบบไหนที่อาจารย์ห้องพยาบาลเอาให้ทาน” อาคาชิดึงเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือให้หันมาพลางนั่งลงกอดอก มายุสุมิหันไปมองเจ้าของเสียงแล้วกลอกตานึก
“เม็ดเหมือนยาแก้ปวดธรรมดานั่นล่ะ”
“เอ๋?…จริงเหรอครับ?” อาคาชิเลิกคิ้ว เห็นท่าจะลำบากซะแล้วแฮะงานนี้ ถึงจะไปหายานั่นเพื่อนำมาเป็นตัวอย่างตรวจสอบ ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันเม็ดไหนที่ทำให้มายุสุมิซังกลายเป็นแบบนี้ หรือความเป็นไปได้ที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ…เจ้ายาพาซวยเม็ดนั้น อาจจะมีเพียงเม็ดเดียวที่รุ่นพี่ของเขากินเข้าไปแล้ว
“ทำหน้าแบบนั้น…ฉันซวยแน่แล้วใช่ไหม?”
“ผมไม่ได้พูดนะครับ”
“อา…โธ่! ทำไงดีเนี่ย!” คนดวงตกยกมือปิดหน้าพลางโน้มตัวเท้าศอกกับเข่าด้วยความเครียดแทบบ้า เขาเป็นผู้ชาย! เป็นผู้ชาย! จะให้เป็นสาวน้อยตัวนุ่มนิ่มแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอก! ริงโกะจังจะมองเขายังไง!
อาคาชิกะพริบตาปริบ ๆ มองท่าทางของรุ่นพี่อย่างหนักใจก่อนจะเอื้อมมือไปดึงคอเสื้อของมายุสุมิขึ้นเบา ๆ จนอีกฝ่ายต้องเงยหน้าขึ้นมา
“ขอโทษที่เสียมารยาทครับ…แต่เสื้อคุณมันหลวม แถมข้างในยังไม่มีบรา ก็เลย—”
ได้ยินแบบนั้น สาวน้อยมือใหม่ก็หน้าแดงเรื่อรีบดีดตัวขึ้นนั่งตรงกอดอกตัวเองไว้ทันที ดวงตาสีอ่อนมองอาคาชิอย่างตกใจปนหวาดระแวงจนรุ่นน้องผมแดงต้องหลุดหัวเราะเบา ๆ
แปลกดีเหมือนกัน…นี่เป็นครั้งแรกของอาคาชิ ที่มองว่าใครสักคน ‘น่ารัก’ แม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นหนุ่มรุ่นพี่ปีสามผู้ถือตัวและไม่น่าคบก็ตามที
…ทำไมถึงได้คิดว่ามายุสุมิซังน่ารักไปได้กันนะ เด็กหนุ่มส่ายหน้าน้อย ๆ คล้ายจะเรียกสติตัวเองกลับมา
“ทำยังไง…จะกลับเป็นอย่างเดิมได้กันนะ” จู่ ๆ มายุสุมิที่ดูจะสงบสติได้แล้วก็เอ่ยพึมพำออกมา “หรือว่าต้องจูบแห่งรักแท้ถอนคำสาปแบบในนิทาน”
…เพ้อเจ้อมากครับ อาคาชิตอบในใจ “แต่ถ้าต้องเป็นแบบนั้นจริง ๆ …มายุสุมิซังก็ควรจะหาแฟนไว้จูบถอนคำสาปได้แล้วนะครับ”
“งี่เง่า!”
“นายน้อยเจ้าคะ ห้องจัดเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงแหบ ๆ คล้ายจะเป็นของหญิงวัยค่อนชรา มายุสุมิเบ้หน้าเล็กน้อยก่อนจะจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วลุกขึ้นยืน
“มายุสุมิซัง อย่าลืมส่งข้อความบอกทางบ้านนะครับ”
ก่อนจะได้เดินออกไป เสียงของอาคาชิก็พูดสำทับเรื่องเก่ากับเขาอีกรอบ “เออ! รู้แล้ว” ชักเสียงพลางหยิบมือถือมากดพิมพ์ข้อความบอกให้ดูต่อหน้าไปเลยจะได้จบ ๆ อีกฝ่ายเมื่อเห็นเขากดส่งข้อความเรียบร้อยก็พยักหน้าพอใจก่อนจะเดินนำไปที่ประตูห้อง
“มายุสุมิซังครับ พรุ่งนี้วันเสาร์…เราไปซื้อของกันไหมครับ?”
“หา?”
“ชวนพวกมิบุจิไปด้วย”
“ไม่เอา!”
“ไม่ได้นะครับ…คุณจะเป็นแบบนี้อีกกี่วันไม่รู้ เดี๋ยวไม่มีเสื้อผ้าใส่จะลำบากเอา ยังไงซะให้มิบุจิลองช่วยดูเสื้อผ้า ผมเองก็จะลองโทรถามผู้จัดการทีมเก่าให้ด้วย” อาคาชิให้เหตุผลด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่ก็ไม่ได้ดุจนเกินไป มายุสุมิเม้มปากนิด ๆ ก่อนจะนึกตามอีกคน เมื่อคิดสะระตะแล้วก็ยอมจนด้วยคำพูดของอาคาชิ
“ก็…ได้ แต่แค่กลัวจะไม่มีเสื้อผ้าใส่เท่านั้นเองนะ!”
กัปตันทีมบาสเกตบอลชายของราคุซันยิ้มบาง ๆ เมื่อได้ฟังคำตอบรับของคนสวยตรงหน้า ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาต่อสายเมื่อมายุสุมิเดินออกไปแล้ว
“สวัสดีโมโมอิ…ขอโทษที่รบกวนนะ มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย”
มายุสุมิเดินตามสาวใช้ของคฤหาสน์อาคาชิไปยังห้องพักที่ถูกจัดเอาไว้ให้ มันเป็นห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องของอาคาชิ แต่ประตูอยู่เยื้องกันไปพอสมควร
“เชิญตามสบายนะเจ้าคะ…” สาวใช้เปิดประตูห้องให้แล้วโค้งหัวนิด ๆ
“…ขอบคุณ” มายุสุมิตอบเบา ๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้อง ก่อนที่ประตูจะถูกปิดลงทันที เด็กหนุ่มกวาดสายตามองรอบ ๆ …การออกแบบของห้องนี้ไม่ต่างจากห้องของอาคาชิเท่าใดนัก แต่ดูเรียบและโล่งกว่าเพราะมีแค่ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือและเตียงเดี่ยวท่าทางนุ่มสบาย
ร่างบางนั่งลงบนเตียงช้า ๆ พลางถอนหายใจยาว แล้วก้มมองร่างกายของตัวเองที่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งรูปร่าง และความรู้สึกนึกคิดที่เจ้าตัวรู้ดีว่ามันเริ่มเปลี่ยนแปลง
กลายเป็นผู้หญิงไปจริง ๆ ซะแล้ว…
จะเป็นยังไงต่อไปนะ…เขาเนี่ย
—